วันที่ 21 มีนาคม 2568 ที่บริเวณลานผามออีแดง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Sisaket One Team “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” “เรียนดี มีความสุข” โดยมี นางสาวชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายลิขิต เพ็งประสิทธิ์พงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 4 ผู้บริหารสถานศึกษาใน สพป.ศรีสะเกษเขต 4 ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ 200 คน ให้การต้อนรับ
นายลิขิต เพ็งประสิทธิพงศ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน Sisaket One Team “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” “เรียนดี มีความสุข“ ว่า เพื่อนำนโยบายการศึกษาของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภา นำไปสู่การปฏิบัฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียนเป็นที่ประจักษ์ ภายใต้หลักการ “การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมันคงของชีวิต” ภายใต้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ต่อยอดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับ ภายใต้แนวคิด “ปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ” เพื่อพัฒนาคนไทยทุกคนในทุกช่วงวัยให้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” พร้อมสนับสนุนการพัฒนาประเทศให้ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนและประชาชน เพื่อเป็นแนวทางนำไปใช้ในการขับเคลื่อนโยบาย ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา อาทิ พัฒนาและต่อยอดการแก้ไขปัญหาหนี้สินและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบและเห็นผลเป็นรูปธรรม การปรับลดภาระงานที่ไม่จำเป็นหรือช้ำช้อน จัดให้มีโรงเรียนคุณภาพอย่างน้อย 1 โรงเรียน ต่อ 1 อำเภอ พัฒนาระบบการแนะแนวการเรียน (Coaching) และเป้าหมายชีวิตให้เป็นรูปธรรม ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์อย่างสร้างสรรค์และมีเหตุผล พัฒนาระบบการศึกษาที่ยึดหยุ่นตอบโจทย์ศักยภาพผู้เรียน ผ่านธนาคาคารหน่วยกิต (Credit Bank) พัฒนาทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริงของผู้เรียน มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn)
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า หากบุคลากรทางการศึกษาเข้าไปเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการทางวินัยอย่างสูงสุด อย่างเช่นเป็นผู้จำหน่าย เข้าไปข้องเกี่ยว มีการปล่อยปะละเลยในสถานศึกษา ซึ่งครูก็เท่ากับเป็นพ่อ-เป็นแม่คนที่สองของลูกๆ ต้องช่วยกันให้เขาเติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพ ทางกระทรวงศึกษาฯ ก็พยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องหลักสูตร AI นั้นทางกระทรวงศึกษาฯ ใด้ร่วมกับเนสเทค และ สสวท. ในการพัฒนาหลักสูตร AI ตอนนี้ได้เริ่มเฟสแรกจะขยายผลในเด็กๆ ได้ประมาณสี่หมื่นห้าพันคน ซึ่งหลักสูตร AI จะสร้างความพร้อมให้เด็กๆ มากที่สุด เพื่อจะทวีคูณยิ่งๆ ขึ้นไปในการสร้างความพร้อมเพื่อเตรียมการเข้าสู่พลโลกที่มีความสามารถในการแข่งต่อนานาอารยะประเทศ














